ก.อบต.ของใคร ????



                                                               logo

 

 

 

ก.อบต.ของใคร ???

 

งานที่มีปัญหาที่สุดคืองานเกี่ยวกับคน  การแก้ไขปัญหาให้กับบุคคลได้ ถือว่าแก้ไขปัญหาให้กับองค์กรและการทำงานบุคคลสำเร็จถือได้ว่าององค์กรนั้นทำงานสำเร็จไปกว่า 70-80 % เพราะในองค์กรมีคนทำงานให้นั่นเอง

....................

องค์ประกอบของ ก.อบต.ประกอบจาก หน.ส่วนราชการระดับ จว.ส่วนหนึ่ง ตัวแทนท้องถิ่นส่วนหนึ่ง และ ผู้ทรง ฯคุณวุฒิ  ที่สองส่วนแรกเลือกมาส่วนหนึ่ง  ปกติแล้ว หน.ส่วนราชการระดับ จว.นั้นๆ จะเป็นใครก็แล้วแต่ก็ถือได้ว่าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของ จว.มีทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิสูงพอสมควร และตัวแทนท้องถิ่นนั้น ก็มาจากตัวแทนของท้องถิ่นเลือกมาทั้ง ปลัด / นายก / ปธ. สภา ก็ถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีวุฒิภาวะพอสมควร  เพราะต้องเข้าใจกฎหมาย  ระเบียบ แนวทางปฏิบัติ เพื่อมาทำงานให้กับกลุ่ม องค์กรตัวเอง เกี่ยวกับงานบุคคลเป็นหลัก วางหลักเกณฑ์เพื่อใช้ทั้ง จว. ต้องดูว่าใครจะได้อะไร  บ้างและอย่างไร โดยมี กติกา เป็นตัวกำหนด

          การบริหารแผนอัตรากำลัง ก็คือการบริหารคนในหน่วยงานนั้นๆ ซึ่งอำนาจการอนุมัติต่างๆ ไม่ใช่อำนาจของหน่วยงาน ถือเป็นอำนาจของ ก.จังหวัด และในการพิจารณาต่างๆนั้นเมื่อ ดูทั้งจังหวัด ยิ่งต้องมีหลักเกณฑ์ต่างๆ เพื่อเป็นแนวทาง  เพื่อเกิดความเรียบร้อย เพื่อให้สิทธิสวัสดิการของคนในองค์กร เพื่อให้องค์กรก้าวหน้า เพื่อให้บุคคลมีขวัญกำลังใจในการทำงาน ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงที่กล่าวมา ถ้าไม่มีการวางกฎเกณฑ์แล้ว บุคคลส่วนมาก ก็จะสับสนเกิดความไม่เข้าใจในแนวทางปฏิบัติของทั้งหมด จึงได้มีการกำหนด หลักเกณฑ์ข้อปฎิบัติ ที่เป็นธรรม ในการปฏิบัติงานเพื่อความก้าวหน้าของบุคคลและองค์กร เพื่อเป็นหลักในการทำงานบุคคลไว้


          ที่ผ่านมานั้น การพิจารณาแผนอัตรากำลังช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ค่อนข้างทำให้ ข้าราชการท้องถิ่น ( ก.อบต. ) เสียสิทธิไปมากพอสมควร ในกระบวนการพิจารณา เช่นเรื่องปกติ เลื่อนไหลในระดับ 1 ไป 2 ไป 3 / 2 ไป 3 ไป 4 / 3 ไป 4 ไป 5 อย่างนี้ก็ไม่ผ่านเยอะมากทั้งๆ ที่เป็นเรื่องปกติในการพิจารณา / การขึ้นสายบริหาร / การขอปรับ หน.ส่วนเป็น ผอ.กอง การขอปรับ 6 ไป 7  ของสายบริหารแบบนี้ บางคนรอไปสองรอบเสียสิทธิไป 5-6 เดือน  ผมเองก็พยามยามแก้ไขปัญหาช่วยเหลือเท่าที่ช่วยได้ ก็เข้าชี้แจง ขอความอนุเคราะห์ ผู้ว่า ฯ รอง ฯ หน.ส่วน ราชการ จว. ชี้แจงปัญหาให้ท่านทราบ ท่านก็พยายามช่วยจนปัญหา โดยภาพรวมมันดีขึ้น แม้กระทั่งน้องๆ สายบริหารสอบไม่ทันเพราะการพิจารณาล่าช้า ก็ขอ ผู้ว่า ฯ ให้เปิดประชุม ก.อบต.ให้เพื่อให้พวกเราได้สอบ มีความก้าวหน้าตามปกติวิสัยทางราชการ เพื่อขวัญกำลังใจในการทำงาน  กฎเกฑ์ต่างๆนั้นถ้าคนส่วนมากได้ประโยชน์และเป็นธรรมแล้ว สังคมมันก็อยู่ได้ สงบสุข โดยการทำงานที่ผ่านๆมาก็พยายามมองดูภาพรวมไว้เพราะคนส่วนมากอยู่ที่นั่น

         ปัญหาวันนี้ ซึ่งไม่นึกว่าจะเกิดปัญหาในการพิจารณาแผนอัตรากำลังของ อบต.คือการพิจารณาแผนอัตรากำลัง ซึ่งก็พยามยามยึดหลักเกณฑ์ไว้ เพราะเป็นการพิจารณาเพื่อคนส่วนมากแต่ก็มีตัวแทนท้องถิ่นที่มาจากฝ่ายการเมือง บอกว่าขอธุรการมา 1 ตำแหน่งทำไมไม่ให้ และพูดจาข่มขู่บอกว่ามีปัญหาอะไร ให้ระวังตัวไว้ด้วย เพราะในการพิจารณามีผมคนเดียวไม่ให้ผ่าน ซึ่งฟังๆดูก็งง และไม่เข้าใจในสิ่งที่เขากำลังพูด เพราะการพิจารณา ข้อกำหนดต่างๆ ก็พยามยามช่วยพวกเราให้ผ่านเยอะที่สุดตามสิทธิที่ควรจะเป็นจะได้ และเมื่อพิจารณาก็เป็นความเห็นของคณะกรรมการ ผมเองก็แค่สิทธิและเสียงเดียว  และต้องยึดหลักเกณฑ์ไว้ เพื่อพวกเราส่วนใหญ่จะได้ประโยชน์ตรงนั้น  ไม่ใช่เสนออะไรก็กองอยู่ที่เดิม ในกรณีนี้ เข้าใจว่า เกณฑ์อย่างไร ไม่สนใจ เพราะไม่เคยสนและ  รู้เพียงว่าตัว( กู ) เป็น ก.อบต.เสนอไป  แล้วต้องผ่านทุกเรื่องโดยไม่ได้สนว่าหลักเกณฑ์เป็นอย่างไร ใครเป็นไงไม่สนใจพวกของกูต้องผ่านก่อน พวกของแก เรื่องคนอื่น เอาไว้ทีหลังไม่สนใจ


“”””””””””””””””””

          ดูแล้วสิ่งที่ผ่านมาเสนอกรอบ ไปไม่ผ่านเยอะมากทั้งเรื่อง เลื่อนไหล ปรับขยาย เลือนระดับ นอกควบ ตัวแทนนักการเมืองก็ไม่เห็นวิ่งเต้นเพื่อให้ระบบมันเอื้ออำนวยให้คนส่วนมากผ่านได้  หรือไม่เข้าใจว่าจะต้องเป็นอย่างไร   พอผมมีโอกาสเข้ามาพิจารณาก็พยายามแก้ไขปัญหาว่า เราวางหลักเกณฑ์เรื่องต่างๆถ้ามีการส่งเอกสารถูกต้อง และเป็นไปตามสิทธิต่างๆที่สมควรได้ต้องผ่าน คือผ่านเกิน 90 %คนส่วนมากได้ประโยชน์ก็คิดว่าจะต้องดีขึ้น

แต่ก็มีตัวแทนพวกเราที่เป็นฝ่ายการเมืองมาโวยวายว่าใครไม่รู้ของตัวเองต้องผ่านเสมอ  การเข้ามาทำหน้าที่ตัวแทน อย่างน้อยวุฒิภาวะต้องมาก่อน กฎเกณฑ์มันมีทุกสังคมนั่นแหละ  การผลักดันแนวทางต่างๆเพื่อสังคมส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ต้องกระทำและกระทำอย่างจริงจริงในฐานะตัวแทนกลุ่มผลประโยชน์ด้วย  การเป็นตัวแทนแล้วไม่ศึกษาแนวทาง  วิธินี้ไม่ได้เพราะเขามีหลักการแบบนี้  ควรเสนออย่างนั้นเพื่อให้ได้มรรคและผลอย่างต้องการ การทำแบบนั้นต่างหากคือการทำหน้าที่เพื่อให้คนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ การเอะอะโวยวายเพื่อตัวคนเดียวโดยทิ้งคนส่วนมากไว้โดยไม่สนหลักเกณฑ์เพื่อตัวคนเดียว อาจจะคิดยังไงก็แล้วแต่   ก็อาจจะสะท้อนนิสัยและการทำงานขององค์กรตัวเองว่าเป็นของเขาคนเดียว เลยพาลมาบอกอีกว่า ก.อบต.ก็ของกูคนเดียวมึงไม่เกี่ยว( เพราะไม่เคยดูกฎเกณฑ์อะไร ) การปฏิรูปรอบใหม่ตามนโยบาย สปช./สนช. อาจจะไม่มีที่ว่างให้กับเหล่านี้ถ้ายังมองวิธีการแก้ไขปัญหาของส่วนรวมโดยมองจากประโยชน์ส่วนตนออกมาก่อนเสมอ

สายสิทธิ์  ไท้ทอง

นายกสมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นจังหวัดอุบลราชธานี


พบท้องถิ่นจังหวัดหารือแนวทางประเมิน ปลัด อบต.8ใหม่

ร่วมเรียกร้องระเบียบโบนัสท้องถิ่นทั่วประเทศ

โคงการศึกษาดูงาน หลวงพะบาง สปป.ลาว

: