เอาเป็นมองจากมุมตัวเองแล้วกัน มาถึงวันนี้แล้วไม่ทราบว่าองค์กรนี้ยังมีเพื่อนๆที่ยังพอสนับสนุนให้เคลื่อนไหวอีกไหม
.....................
ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมานั้น อบต.ได้เกิดขึ้นใหม่ในวงการท้องถิ่นไทย และอุบลราชธานีก็เช่นกัน ก็ในความใหม่ทุกคนก็มองว่ามันคืออะไร ทั้งชาวบ้านจู่ๆมีสำนักงานในตำบลมีคนมาทำงาน ผญ./กำนัน /ครู /อนามัย ฯลฯ ก็มองอย่างแปลก และไม่ค่อยจะเข้าใจในบทบาทอำนาจหน้าที่ สถานะ และมีพี่เลี้ยงทั้งอำเภอและจังหวัดมาดูแลในเรื่องต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่ดีเพราะ ปลัดบางคนยังไม่รู้เลยว่าฎีกาคืออะไร คิดไปว่าคงเป็นอะไรซักอย่างที่น่าจะอยู่ในวัด การเปิดซองกรรมการทั้งหลายถามว่ามีอะไรในซองจะเจอเงินไหม สรุปว่าใหม่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็คอยประคับประครองมาตลอดเพราะการออกแบบโครงสร้างนั้น ฝ่ายที่อยากให้ประเทศพัฒนาไปอย่างเร็วโดยมีประชาชนมีส่วนร่วมก็คือการปกครองแบบท้องถิ่นนั่นเอง
แต่ในการที่ท้องถิ่นกำเนิดมานั้นโดยลักษณะก็มีการเฉือนอำนาจ หน้าที่ ส่วนหนึ่งมาให้ท้องถิ่นซึ่งในตอนแรกๆข้าราชการส่วนอื่นก็ไม่รู้สึกถึงมาเพราะยังไม่กระทบกระเทือนมากนัก หน่วยตรวจสอบทั้งหลายก็พยายามแนะนำในภารกิจการกระจายอำนาจนี้เมื่อตอนต้นปี 2540 โดยรวมก็มั่วๆยุ่งๆแต่ก็มีความตั้งใจช่วยกัน
ตัวองค์กรเองทั้งประกรรมการบริหาร สมาชิก ปลัดอบต.และจนท.ส่วนอื่นๆก็พยายามทำงานด้วยความแข็งขัน เวลาไปติดต่องานบอกว่ามาจาก อบต.เขาก็บอกว่าเคยได่ยินชื่อมาบ้างแล้วเพราะช่วงนี้เจอบ่อย แต่ว่ามันคืออะไร ทำอะไรในตำบล ปลัด อบต.ลูกน้องปลัดอำเภอแต่ อยู่ตำบลใช่ไหม ก็ยาวละทีนี้ที่จะอธิบายเป็นแบบนี้หลายปี
องค์กรมารวมกันก็เกิดสังคม และมีกิจกรรมต่างๆตามมานอกเหนือจากหน้าที่หลักๆแล้ว พวกเราเองก็อยากให้มีกิจกรรมของกลุ่ม ในการพบปะก็เลยมีการพูดคุยกันก็เลยมีการสรุปคร่าวๆง่ายๆว่า 2 มี.ค..วันที่กฎหมาย อบต.ประกาศใช้นั่นแหละวัน อบต.ก็เลยมีการจัดงานจัดกิจกรรม หลักๆก็แข่งกีฬา พบปะกัน 25 อำเภอไม่รู่ใครเป็นใครหรอกเอาเท่าที่รู้จัก โทรศัพท์ก็ไม่มี ซึ่งก็คิดออกเท่านนั้นเพราะงานพบปะน่าจะก๊ฬา อาจจะจำหน่วยงานอื่นมา และมีคนมาร่วมงานประมาณ 30-50 คนเสร็จแล้วก็แยกกันกลับ ส่วนฝ่ายการเมืองมาจากกำนันไม่ต้องพูดถึงว่า อะไรคือ 2 มีนาคม เป็นเพราะพวกเราออกจากรั้วมหาลัยมาและเป็นนักกิจกรรมส่วนหนึ่งเลยอยากทำงานให้องค์กรบ้างแต่กระโจนลงมาเลยแต่เวทีนี้ไม่มีพี่เลี้ยง ก็จัดมาหลายปี กระท่อนกระแท่นนักกีฬามากว่าคนดูประมาณนี้
พอมาประมาณ ป.สัญญาได้เป็น ประธานชมรม ปลัด.ก็มีแนวคิดในการจัดงานเรื่องกีฬาและทำอยู่หลายปีและดีด้วยเป็นหน้าเป็นตาให้กับ อบต.ทำให้ทุกหน่วยงานชื่นชมเพราะตัวเขาเองก็ทำม่ได้ ทั้เดินพาเหรดทั่วจังหวัด เอาดารามาแข่งกีฬามีงานเลี้ยงตอนเย็นเอาดนตรีออกมาจากตะวันแดงมาเล่นที่งาน อบต.ทุกคนก็ชื่นชมเราเองคณะทำงานก็พยายามทำอะไรก็ได้ที่ให้รู้ว่า อบต.ต้องยิ่งใหญ่ จึงพยายามทำออกมาทุกทาง เอาทีวีช่อง 11 ตอนนั้นมาทำข่าวและสื่ออื่นๆอีกส่วนนายก อบต.ก็แล้วแต่ทางชมรมจัดเพราะไม่มีการรวมตัวกันและมีศักยภาพพอในการจัดงานแบบนี้ มีเพื่อนบางคนถามผมที่พัทยาว่าทำไมจัดแบบเดิมไม่ได้ ผมตอบว่าตอนจัดสาระคือให้ยิ่งใหญ่ให้คนรู้จัก อบต.เราทำทุกทางและก็ทำได้ดีด้วย
( ถึงแม้จะมีปัญหาในการจัดงานบ้างก็ถือเป็นธรรมดาในการจัดงาน ) ทุกอย่างทำด้วยใจที่ให้ท้องถิ่น ( spirit ) เพื่อนคนนั้นก็ถามต่อว่าตอนนี้ไม่จัดอีกเหรอ ผมก็ตอบว่า ตอนที่จัดไม่ใช่แข่งกีฬาหรืองานเลี้ยงหรือเอาดารามาแข่งกีฬา นะ
แต่จัดเพื่อประกาศ ( announce ) ว่านี่แหละท้องถิ่น ไม่ใช่รูปแบบ ( pattern ) แต่ว่าต้องแบบนี้ทุกปีนะ
ช่วง 2-3 ปีล่าสุดนี้ทางฝ่ายการเมือง โดยชมรมนายก อบต.จ.อุบลได้เข้ามาจัดงาน เองเพราะ อบต.ไม่ใช่แค่ปลัด อบต. จึงให้ทางนายกจัด มาตลอดช่วง 2-3 ปีหลัง โดยที่ทางชมรมไม่ได้ไปวุ่นวายในการจัดงาน เพราะการจัดงานท้องถิ่นแต่ก่อนที่ชมรมจัด นั้นคอนเซปต์คือสัมนาวิชาการปีละครั้ง ในวันที่ 2 มีนาคม เมื่อนายกจัดงานทางชมรม ปลัด อบต.โดยตัวผมเองเป็น ประธานชมรมได้เฟดออกมาเพื่อจะจัดงานการประชุมใหญ่พนักงานท้องถิ่น จ.อุบลราชธานี ซึ่งเดิมชมรมปลัด อบต.จัดทุกปีอยู่แล้ว ( แต่ช่วงหลังนายกจัดงาน ) เพื่อให้งานสัมมนาท้องถิ่นคงอยู่ เพราะรูปแบบวันที่ 2 มีนาคม ได้เปลี่ยนไป เป็นพบปะกันมากขึ้นจึงอยากเฟดออกมาดูตรงนี้ส่วนวันที่ 2 มี.ค.ก็ให้คนที่ทำอยากทำบ้าง จึงเป็นเหตุผลที่ชมรมปลัด อบต. ทำไมไม่จัดงานวันที่ 2 มีนาคม เหมือนแต่ก่อนแค่แยกงานกันทำ
ส่วนงานบุคคลที่อยู่ใน ก.อบต ที่ผ่านมานั้นก็มีลักณะที่พวกเราส่วนมากก็ไม่ค่อยรับรู้ข้อมูลข่าวสารมากนัก ใครใกล้และสนิทหน่อยก็ได้รับประโยชน์มากเพราะเข้าไปบ่อยคนที่อยู่ไกลก็ไม่ค่อยรับรู้ข้อมูลข่าวสาร ก็จะเป็นสภาพมืดบอดในการรับข้อมูลพอสมควร ก็มีข่าวว่าเป็นแบบนี้แบบนั้นก็เอามาลือกันต่างๆและก็พยายามทำไปตามนั้น เพราะไม่รู้ นั่นก็เป็นลักษณะหนึ่ง แต่ในเรื่องข้อมูลข่าวสารนั้น้ราแก้ปัญหาได้ดีในระดับที่น่าพอใจมากคือผมเปิดเวป paladubon.org ถือว่าทำให้เรามีข่าวสารข้อมูลทั้งภายในเองคือ มติ.ก.อบต.ต่างๆข่าวสารงานบุคคล เทียบกับจังหวัดอื่นๆในภาคอีสานถือว่าเราก้าวหน้ามาก และทุกวันนี้ทางท้องถิ่นจว.และหลายๆจังหวัดก็ยังยอมรับในจุดแข็งข้อนี้ของเรา ในส่วนตัวผมเองเมื่อได้ก้าวมาเป็นตัวแทนก็มองเห็นปัญหาตั้งแต่ก่อนเข้ามาก็พยายามคิดและทำว่า แต่ก่อนงานบริหารบุคคลไม่มีข่าวสารต่างๆเมื่อได้เป็นตัวแทนแล้วก็แจ้งขั้นตอนพวกเรา ที่ผมไปคุยแนวทางไว้แล้วและถ้ามีปัญหาก็จะไปแก้ไขว่าทำไมไม่เป็นไปตามแนวทางที่ควรปฏิบัติในเรื่องๆต่างๆ หลักตัวนี้ คือพยายามทำงานบุคคลให้อยู่ในที่แจ้งว่าแต่ละขั้นตอนทำอะไร มีใครรับผิดชอบ เอกสารอะไรที่เกี่ยวข้องด้วย และพยายามบอกพวกเราว่าให้ทำให้ถูกต้องด้วย ถ้าเราไม่ทำให้ถูกไม่สนขั้นตอน คอยแต่ให้เลขา ฯ แก้ให้ทุกเรื่องก็เหมือนกับว่าอะไรก็ไม่รู้คอยยืมจมูกคนอื่นหายใจ ซึ่งจริงๆแล้วร้อยละ 90 เป็นเอกสารเราทำส่งไปเองทั้งนั้น
แต่ดูเหมือนว่าพวกเราจะไม่สนใจทำและตรวจงานต้องพึ่งคนอื่นเสมอทำให้สิ่งที่ควรทำปกติ เป็นไม่ปกติคือว่ามา อะไรทำให้หมดแต่อย่าบอกว่าให้ทำเองขี้เกียจแก้ไขแล้วบอกว่า เลขา ฯบอกยังงั้นยังงี้ทั้งๆที่เขาก็ไม่ได้บอกอะไรเพราะเป็นงานเราเองแค่อธิบายขั้นตอนให้เราฟังเท่านั้น และอยากจะทำให้งานบุคคลกลับไปมืดๆมัวๆคือไม่รู้ขั้นรู้ตอน ทั้งๆที่การทำงานส่วนรวมนั้น เราต้องวางกฏเกณฑ์ไว้เพื่อให้คนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ไม่ใช่ว่ารู้จักใครวิ่งได้วิ่งเอา แล้วมาบ่นว่านี่แหละระบบอุปภัมป์แต่ไม่ออกมาช่วยกันและแก้ใข
มาถึงวันนี้ ก.อบต.อุบลเท่าที่มองจากคนภายนอก กรรมการท่านใหม่ๆที่เข้ามาก็มีแนวทางใหม่และต่างมาเสนอในการปรับปรุงงานบุคคลท้องถิ่น แต่ท้องถิ่นมีกฎหมายพิเศษต่างจาก ก.พ. ทำให้ ก.อบต.อุบล ฯค่อนข้างจะเปลี่ยนเพราะแนวทางต่างๆไม่เหมือนเดิม ( ไม่ได้บอกว่าดีไม่ดีนะ )
ตัวแทน ชมรมปลัด อบต./สมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่น / ก.อบต. เราก็รับทราบแนวทางของอุบล ฯ ตลอดแต่มาวันนี้หลายๆเรื่องทำให้เสียสิทธิ ขาดความชัดเจนในแนวทางปฏิบัติและดำเนินการก็พยายามแก้ไขและเรียกร้องต่อสู้ ซึ่งเพื่อนๆก็เห็นกันอยู่ ตัวองค์การก็พยายามขับเคลื่อนตลอดมาซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งของอุบล ฯซึ่งที่จังหวัดอื่นๆก็ยอมรับที่มีคณะบุคคลมาสืบทอดหลักการการทำงานขององค์การ
เพื่อนๆครับงานบุคคลเราวันนี้เรามาไกลเกินกว่า จะให้มันอยู่ในทีมืดไม่เคลียร์ทั้งขั้นตอนระเบียบต่างๆ ใครใกล้ชิดก็ได้ประโยชน์ไป ซึ่งงานบางอย่างอาจเป็นสีเทาๆบ้างแต่อย่ายกมาเป็นกระแสหลักของพวกเราเลย การทำถูกระเบียบ ขั้นตอน ข้อกฎหมาย โปร่งใสต่างหาก ควรจะเป็นสิ่งดีงามเป็นกระแสหลัก ที่จะต้องมีเพื่อจรรโลงองค์การในการก้าวเดินไปข้างหน้า ซึ่งอาจจะมีการต่อสู้เรียกร้องก็ให้เป็นไปตามกาละและเทศะเป็นบางคราว
ในวันนี้ในวันที่ศรัทธาในตัวองค์กร ที่ยึดถือแนวทางต่อสู้โดยยึดถือประโยชน์ชาวท้องถิ่นเราตลอดเพื่อให้มีกฎเกณฑ์ที่พวกเราส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ โปร่งใส เริ่มคลางแคลง ตัวองค์กรเองทำงานก็คงโคลงเคลงไม่มั่นคงแล้วและจะยืนให้ตรงว่า
“ นี่คือชาวท้องถิ่นอุบล ฯ “ อย่างภาคภูมิใจได้อย่างไร
" งานบริหารงานบุคคล จ.อุบลราชธานี เท่าที่เห็นและเป็นอยู่ในวันนี้จริงๆ "
สายสิทธิ์ ไท้ทอง
นายกสมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นจังหวัดอุบลราชธานี
- สมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นจังหวัดอุบลราชธานี
www.ubonlocalgov.org
เขียนโดย Administrator |
วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ 2013 เวลา 08:28 น. |