...."หลักและวิธีคิด วิธีปฏิบัติในการดำเนินการงานบริหารงานบุคคล"...
ดังที่เราทราบดีว่าในการบริหารงานบุคคลมีกฎหมายเฉพาะฉบับเดียวที่ชาวท้องถิ่นยึดถือในการปฏิบัติงาน
คือประกาศ หลักเกณฑ์เงื่อนไขการบริหารงานบุคคล พ.ศ.2545 และมีหน่วยงานเดียวอีกเช่นกันในการดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศ
คือ คณะกรรมการพนักงานส่วนตำบล ( ก.อบต.) / คณะกรรมการพนักงานเทศบาล (ก.ท.) / คณะกรรมการข้าราชการ อบจ.(กจ.)
ซึ่งมีอำนาจอนุมัติเรื่องงานบุคคลและวินัยให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย ทั้งกฎหมายงานบุคคลและวินัย..โดยมีท้องถิ่นจังหวัดแต่ละ
จังหวัดเป็นเลขานุการคณะกรรมการ ทุกจังหวัด ....
ตามโครงสร้างจะเห็นว่า มีข้อกฎหมาย หนังสือสั่งการ แนวทางปฏิบัติเป็นกฎหมายหลัก เป็นกฎหมายแม่ เป็นกฎหมายแม่บท
ซึ่งเราชาวท้องถิ่นถือเป็นแนวทางปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ส่วนอื่นๆเช่นหนังสือสั่งการ มติ.ก.ต่างๆก็ถือว่าอยู่ในบริบทเดียวกัน เมื่อเราทำตาม
หรือไม่ทำตามทำถูกต้องหรือผิดพลาดก็โดนวินิจฉัยว่า ถูกหรือผิดโดยกฎหมายเราเอง กฎหมายหนังสือสั่งการ มติ.ก.ต่างๆเอง นั่นคือหลัก..
ที่ผ่านมาหลายๆ อปท.หลายๆคน ส่วนมากมักจะไม่ทำความเข้าใจในข้อกฎหมาย แนวทางการปฏิบัติ อย่างถูกต้องและพอเพียงในการ
ปฏิบัติงานในเรื่องนั้นๆของตัวเอง จึงมักประสบปัญหาในการดำเนินงานไม่บรรลุผลสำเร็จในการบริหารงานบุคคลของตัวเองและหน่วยงาน...
ช่วงเปลี่ยนผ่านนี้โดยรูปทรง โครงสร้างเราเข้าสู่ระบบแท่งแล้วแล้วตั้งแต่ 1 ม.ค.59 แต่แบบประเมิน แนวทางปฏิบัติมากกว่าร้อยละ 80
ยังออกตามไม่ทันจึงให้ของเดิมไปก่อนซึ่งการเข้าสู้ระบบแท่งนั้นสิทธิต่างๆต้องได้ไม่น้อยกว่าเดิม ในทางทฤษฎี แต่บางเรื่องแนวทางยังไม่ครบถ้วน
บ้างซึ่งต้องรอต่อไป เราต้องเข้าใจว่าอะไรคือหลักเกณฑ์ใหม่ เช่น โครงสร้าง มาตรฐานตำแหน่ง บัญชีเงินเดือน อะไรคืออันเดิม เช่นแบบประเมิน หลัก
เกณฑ์หนังสือสั่งการบางตัว บางอย่าง เพื่อสิทธิ ของเราเอง
ปัญหาในช่วงนี้ที่เสียสิทธิกันมากและเยอะถึงออกมาพูดช่วงนี้ คือเราเองไม่เข้าใจ หลักคือข้อกฎหมาย ระเบียบ หนังสือสั่งการ
มติ.ก..อะไรมีผลกับเราบ้างทั้งเก่าและใหม่ อะไรไม่ได้ใช้แล้ว การเลื่อนระดับ การเปลี่ยนแท่ง การเข้าสู้ หน.ฝ่ายต่างๆนี้ สิทธิต่างๆยังคงอยู่เหมือนเดิม
ซึ่งมีผลตั้งแต่ 1 เม.ย.59 พร้อมเราประกาศใช้แผนอัตรากำลัง 3 ปี เราแล้ว เราต้องได้สิทธิต่างๆตามปกติ
แต่พวกเราเองไม่รับผิดชอบตัวเองไม่ศึกษาทำให้ขึ้นไม่ทันรอบ มิ.ย.59 สอบเปลี่ยนสายงานไม่ทัน ขึ้น หน.ฝ่ายไม่ได้เพราะไปเชื่อคำ
แนะนำจากที่ต่างๆโดยที่ไม่สนใจสิทธิต่างๆที่กฎหมายเองรับรองเราว่าทำได้ หลักเรื่องนี้กฎหมายระเบียบต้องมาก่อน การติดต่อสอบถามหรือคำแนะนำ
ใดๆว่าได้หรือไม่ได้ซึ่งมันก็เหมือนกับการทำงานทุกอย่างนั่นแหละไม่เฉพาะแค่งานบุคคลและวินัย..
.. หลักการ ข้อกฎหมาย ระเบียบ หนังสือสั่งการ มติ.ก.ต่างๆ มีอยู่แล้ว ...
ถือเป็นสรณะในการทำงานอย่าเอาเรื่องนอกระบบมาทำงานมันเละเพราะไม่เคารพหลักการและขนบและธรรมเนียม จารีตวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องในการ
ทำงานมันถึงก่อเกิดปัญหาทั้งระบบเอง ทั้งตัวบุคคลเอง ถ้าเป็นแบบนี้จะว่าใครก็ไม่ได้ คงได้แต่โทษตัวเอง อุดมการณ์มันจะช่วยเราในเรื่องแบบ ยังแจ่ม
ชัดและใสกระจ่างอยู่ไหม หรือนับวันจะมืดบอดเพราะทำงานมานานและมีสิ่งอื่นๆมาปกคลุมไว้
สายสิทธิ์ ไท้ทอง
นายกสมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นจังหวัดอุบลราชธานี