บทพิสูจน์ฝีมือกรมส่งเสริมฯ
- รายละเอียด
- เขียนโดย Super User
บทพิสูจน์ฝีมือกรมส่งเสริมฯ
-ช่วงนี้ ต้องยอมรับว่า ปัญหาต่างๆ ถาโถมสู่คนของกรมส่งเสริมฯ เสมือนแม่น้ำหลากสาย มาบรรจบโดยพร้อมกัน
-หนึ่ง เรื่องโบนัส ทุนการศึกษา เจตนาดีแต่ทิศทางแก้ไขไม่เป็นที่พอใจของข้าราชการส่วนท้องถิ่นกลุ่มใหญ่จนถึงขี้นประณามว่าเป็น "กรมไม่ส่งเสริม...กรมฉุดความเจริญ"
-สอง การที่ 3 สมาคมฝ่ายการเมืองท้องถิ่น เข้าพบหม่อมหลวงปนัดดา รมต.ประจำสำนักนายกฯ และปลัดสำนักนายกฯ แล้วท่านได้ชวนไปอยู่สำนักนายกฯ จากนั้น หนึ่งในสามสมาคมยังได้ออกมาพูดตามสื่อเสนอยุบกรมส่งเสริมฯ
-สาม การออกหนังสือของกรมฯเรื่อง แนวทางปฏิบัติตามหนังสือเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการโยกย้าย แต่งตั้ง สำทับความไร้ประสิทธิภาพ ในการวินิจฉัย และไร้คอนเนกชั่น อันสามารถตรวจสอบ หรือสอบถามก่อนที่จะออกหนังสือเวียน ทำให้กรมฯนอกจากหน้าแตกแล้วยังถูกเย้ยหยันจากกลุ่มข้าราชการในก.กลางอีกด้วย และยังถูกด่าไปทั่ว
-สี่ เรื่องแนวทางแก้ไขปัญหาเงินเกินร้อยละ 40 ของท้องถิ่น จนเป็นเหตุให้อปท.บางแห่ง ใช้เป็นข้ออ้างปลดพนักงานจ้าง ลดตำแหน่ง ลดค่าตอบแทน จนถึงขั้นเลิกจ้าง ซึ่งสวนทางกับนโยบายของหน.คสช.และนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่ต้องการดูแลเจ้าหน้าที่ของรัฐชั้นผู้น้อย แทนที่กรมฯจะระงับยับยั้งไว้ชั่วคราว เพื่อเยียวยา และหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน แต่กรมฯกลับออกหนังสือ เสมือนคนไร้สมอง ไร้ความรู้ เพราะหนังสือที่กรมฯอ้างว่า ช่วยเหลือเยียวยานั้น มันกลับเป็นเสมือนยื่นดาบให้อปท.เชือดพนักงานจ้างได้อย่างชอบธรรมยิ่งขึ้น
-ห้า สิบสองปีของกรมส่งเสริมฯ ยิ่งโตยิ่งเสื่อมสมรรถภาพ คนในกรมฯทั้งระดับส่วนกลางและภูมิภาค ขาดความจริงใจต่อการส่งเสริมและพัฒนาท้องถิ่น ตามปณิธานของกรมฯ นอกจากไม่เคยตั้งงบประมาณมาเพื่อพัฒนาบุคลากรของคนท้องถิ่นแล้ว สำนัก/กอง/ส่วน ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค กลับจัดอบรมประชุมสัมมนาศึกษาดูงาน ดูดเงินดูดทองจากอปท.ไปปีละหลายร้อยล้านบาท หากอปท.ไม่ไปก็เทียวข่มขู่จะเอาผิดโน้นนี่นั่น จนหลายอปท.เบื่อหน่ายกับพฤติกรรมเหล่านี้ ทั้งที่กรมฯก็มีสถาบันพัฒนาอยู่แล้ว ก็ยังปล่อยปะละเลยให้คนของตนหากินกับอปท.ด้วยวิธีการนี้ตลอดสิบสองปีที่ผ่านมา แถมยังกรมฯทำตนเป็นเสมือนหนึ่งเป็นผู้บริหารอปท.เสียเอง ไปลงนามMOU กับสถาบันการศึกษามากมายหลายแห่ง เพื่อให้มาขูดรีดทำมาหากินกับอปท.ด้วยการจัดอบรม โดยให้คนของกรมฯยืมชื่อสถาบันเหล่านี้มาจัดอบรม และเป็นวิทยากรเอง ขูดรีดข่มขู่กับอปท.ให้เข้าอบรมกับสถาบันเหล่านี้ ทั้งที่กรมฯเองก็รู้อยู่แก่ใจว่า ตนไม่มีอำนาจ แต่ก็ยังทำ แถมซ้ำ ยังไม่เคยส่งเสริมให้องค์กรของคนท้องถิ่น มีความเข้มแข็ง ไม่ว่าจะเป็น สมาคม สมาพันธ์ ชมรม อะไรจะจัดอบรม นอกจากจะกดให้จมดินโดยจำกัดค่าใช้จ่ายที่ต่ำเกินจริงแล้ว แต่หากองค์กรที่ตนทำMOU ด้วยจัด กลับให้เบิกได้ไม่จำกัดจนโอเว่อร์แล้วยังไม่ พอ เมื่อองค์กรฝ่ายอปท.เหล่านี้ ขอความร่วมมือช่วยเหลือให้ปชส.ข่าว แทบกราบกรานครั้งแล้วครั้งเล่าแล้ว กรมฯและคนของกรมฯกลับอ้างโน้นอ้างนี่สารพัด ไม่สนับสนุนปชส.แล้วยังซ้ำเติมข่มขู่บิดเบือนมิให้อปท.ส่งคนเข้าอบรมอีก
-สิบสองปีที่ผ่านมา มันเป็นบทพิสูจน์แล้วว่า กรมฯควรพิจารณาตนเอง ร้องขอให้ยุบตนเอง หรือต้องให้คนอปท.ออกแรงขับไล่หรือหนีไปอยู่รังใหม่ หรือจะทำอย่างไร กรมฯจะปรับตัวอย่างไรในสภาวะการณ์ตื่นตัวเรื่องปฎิรูปมาแรงในช่วงนี้...
-สุดท้าย สัปดาห์หน้านี้ หากกรมฯยังไม่สามารถแก้ปัญหา พนักงานจ้างได้อย่างที่ควรจะเป็น สัปดาห์ถัดไปกรมฯ จำเป็นต้องตอบคำถาม หน.คสช.และนายกรัฐมนตรี ว่า กรมฯควรอยู่หรือยุบไป...
นายกสมาคมสมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย
